ความเกี่ยวข้องของวัง ของ วิกฤตรัฐธรรมนูญออสเตรเลีย ค.ศ. 1975

ทั้งวิทแลมและเคอร์ไม่เคยชี้นำว่าวังได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องนี้[130] เจนนี ฮอคกิง นักเขียนชีวประวัติของวิทแลม อ้างถึงบันทึกของเคอร์จากหอจดหมายเหตุแห่งชาติออสเตรเลียที่เปิดเผยว่าเขาเคยพูดคุยเรื่องอำนาจสงวนที่เขามีและความเป็นไปได้ที่เขาจะใช้มันเพื่อปลดรัฐบาลวิทแลมกับเจ้าชายชาลส์ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1975[136] เคอร์ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากเขาปลดวิทแลมแล้วนายกรัฐมนตรีตอบโต้ด้วยการปลดเขา จากคำบอกเล่าของเคอร์ เจ้าชายชาลส์ตรัสว่า "แน่นอนอยู่แล้ว เซอร์จอห์น พระราชินีไม่ควรรับถวายคำแนะนำให้เรียกตัวท่านกลับไปทุกครั้งที่ท่านพิจารณาจะปลดรัฐบาล" เคอร์เขียนในสมุดบันทึกว่าเจ้าชายชาลส์ได้ทรงแจ้งให้ราชเลขานุการในพระองค์ เซอร์ มาร์ติน ชาร์เทอริส ทราบถึงการสนทนานี้ ชาร์เทอริสจึงเขียนไปหาเคอร์เพื่ออธิบายว่า ในกรณีที่เกิดเหตุเช่นนั้นขึ้น "พระราชินีคงจะทรงพยายามประวิงเวลาให้ แต่ท้ายที่สุดแล้วพระองค์ก็ทรงต้องรับคำแนะนำที่นายกรัฐมนตรีถวาย"[137][138][130] ไมเคิล เฮเซลไทน์ นักการเมืองอังกฤษผู้อยู่ฝั่งรัฐบาลในเวลานั้นได้ยืนยันในเรื่องนี้[139]

หนึ่งในเอกสารหลายฉบับที่ฮ็อคกิงอ้างถึงจากบันทึกของเคอร์คือรายชื่อประเด็นสำคัญที่เคอร์เขียนไว้เป็นข้อ ๆ เกี่ยวกับการปลดนายกรัฐมนตรี รวมถึงการสนทนากับเจ้าชายชาลส์และ "คำแนะนำของชาร์เทอริสเกี่ยวกับการปลดนายกรัฐมนตรี"[140] พอล เคลลี ปฏิเสธข้อมูลที่ฮ็อคกิงอ้างถึง เขาเขียนว่าการสนทนาในปี 1975 ไม่ได้ถูกเขียนไว้ในบันทึกส่วนตัวอื่น ๆ ของเคอร์ ซึ่งถ้ามีก็คงเป็นการบันทึกก่อนที่จะเกิดวิกฤตขึ้น ซึ่งคงเป็นเพียงการเปิดเผยความหวาดระแวงของเคอร์ที่มีต่อการถูกวิทแลมปลด เคลลีตั้งข้อสังเกตถึงคำบอกเล่าที่แสดงถึงความประหลาดใจจากในวังเมื่อทราบถึงการตัดสินใจของเคอร์[130]

ตั้งแต่ปี 2012 ฮอคกิงเริ่มพยายามที่จะขอให้มีการปล่อยจดหมายโต้ตอบระหว่างที่ปรึกษาของพระราชินีกับเคอร์ในเรื่องการปลดนายกรัฐมนตรี ซึ่งหอจดหมายเหตุแห่งชาติเป็นผู้เก็บไว้อยู่[141][142][143] ในปี 2016 ฮ็อคกิงยื่นคำร้องต่อศาลสหพันธรัฐ เพื่อเรียกร้องให้หอจดหมายเหตุแห่งชาติทำการปล่อยจดหมายโต้ตอบระหว่างเคอร์ พระราชินี และชาร์เทอริส ที่เรียกว่า "จดหมายจากวัง" (palace letters) ที่หอจดหมายเหตุเก็บไว้อยู่แต่ไม่อนุญาตให้ดู[144] คำร้องตกไปในการพิจารณาแบบครบองค์คณะ คือเทียบเท่าชั้นอุทธรณ์ในระบบศาลของออสเตรเลีย แต่ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2020 ฮ็อคกิงที่ยื่นคำร้องฎีกาต่อศาลสูง ก็ประสบความสำเร็จในที่สุด โดยศาลสูงมีคำตัดสิน 6 ต่อ 1 ให้ถือว่าจดหมายจากวังเป็น "เอกสารของเครือรัฐ" คือเป็นเอกสารสาธารณะที่บุคคลทั่วไปสามารถขอดูได้ตามบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติจดหมายเหตุ ค.ศ. 1983[145]

ในวันที่ 14 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 จดหมายทั้งหมดถูกปล่อยทางออนไลน์โดยไม่มีการปกปิดใด ๆ ข้อความในจดหมายเหล่านี้เปิดเผยว่า ถึงแม้ว่าเคอร์จะเคยเขียนจดหมายโต้ตอบกับชาร์เทอริสในเรื่องของอำนาจทางรัฐธรรมนูญที่เขามีในการปลดวิทแลม แต่เขาไม่เคยทูลแจ้งให้พระราชินีทราบล่วงหน้าเกี่ยวกับการตัดสินใจที่จะปลดวิทแลม[146] แต่จดหมายก็เปิดเผยเช่นกันว่าเคอร์เคยเอ่ยถึงความเป็นไปได้ที่จะปลดวิทแลมมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ค.ศ. 1975[147][148] คือประมาณ 2-3 เดือนก่อนที่จะเกิดวิกฤต นอกจากนี้ ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 1975 มาร์ติน ชาร์เทอริสยังยืนยันในจดหมายว่าเคอร์ได้พูดคุยกับเจ้าชายชาลส์ในเรื่องความเป็นไปได้ที่วิทแลมจะทูลเกล้าฯ ขอให้พระราชินีมีพระบรมราชโองการปลดเคอร์ให้พ้นจากตำแหน่ง[149]

แหล่งที่มา

WikiPedia: วิกฤตรัฐธรรมนูญออสเตรเลีย ค.ศ. 1975 http://www.crikey.com.au/2015/11/11/what-the-queen... http://www.theage.com.au/national/how-one-strong-w... http://www.theage.com.au/news/general/nothing-will... http://www.theaustralian.com.au/in-depth/cabinet-p... http://www.theaustralian.com.au/news/inquirer/whit... http://adb.anu.edu.au/biography/cain-john-9661 http://primeministers.naa.gov.au/primeministers/wa... http://www.nla.gov.au/amad/nla.oh-vn1791129?search... http://www.abc.net.au/7.30/content/2005/s1479968.h... http://www.abc.net.au/am/content/2005/s1499058.htm